เมนู

ปัญหาปุจฉกะ


[223] อริยสัจ 4 คือ
1. ทุกขอริยสัจ
2. ทุกขสมุทัยอริยสัจ
3. ทุกขนิโรธอริยสัจ
4. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.

ติกมาติกาปุจฉา ทุกมาติกาปุจฉา


บรรดาอริยสัจ 4 อริยสัจไหนเป็นกุศล อริยสัจไหนเป็นอกุศล อริยสัจ
ไหนเป็นอัพยากฤต ฯลฯ อริยสัจไหนเป็นสรณะ อริยสัจไหนเป็นอรณะ ?

ติกมาติกาวิสัชนา


[224] สมุทยสัจเป็นอกุศล มัคคสัจเป็นกุศล นิโรธสัจเป็นอัพยากฤต
ทุกขสัจเป็นกุศลก็มี เป็นอกุศลก็มี เป็นอัพยากฤตก็มี สัจจะ 2 เป็นสุขเวทนา-
สัมปยุตก็มี เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุตก็มี นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
สุขเวทนาสัมปยุต แม้เป็นทุกขเวทนาสัมปยุต แม้เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุต
ทุกขสัจ เป็นสุขเวทนาสัมปยุตก็มี เป็นทุกขเวทนาสัมปยุตก็มี เป็นอทุกขม-
สุขเวทนาสัมปยุตก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นสุขเวทนาสัมปยุต แม้เป็นทุกขม-
เวทนาสัมปยุต แม้เป็นอทุกขมสุขเวทนาสัมปยุต สัจจะ 2 เป็นวิปากธัมมธรรม
นิโรธสัจ เป็นเนววิปากนวิปากธัมมธรรม ทุกขสัจ เป็นวิบากก็มี เป็นวิปาก.
ธัมมธรรมก็มี เป็นเนววิปากนวิปากธัมมธรรมก็มี สมุทยสัจ เป็นอนุปาทินนุ-

ปาทานิยะ สัจจะ 2 เป็นอนุปาทินนานุปาทานิยะ ทุกขสัจ เป็นอุปาทินนุ-
ทานิยะก็มี เป็นอนุปาทินนุปาทานิยะก็มี สมุทยสัจ เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะ
สัจจะ 2 เป็นอสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกะ ทุกขสัจ เป็นสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะก็มี
เป็นอสังกิลิฏฐสังกิเลสิกะก็มี สมุทยสัจ เป็นสวิตักกสวิจาระ นิโรธสัจเป็น
อวิตักกาวิจาระ มัคคสัจ เป็นสวิตักกสวิจาระก็มี เป็นอวิตักกวิจารมัตตะก็มี
เป็นอวิตักกาวิจาระก็มี ทุกขสัจ เป็นสวิตักกสวิจาระก็มี เป็นอวิตักกวิจารมัตตะ
ก็มี เป็นอวิตักกาวิจาระก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นสวิตักกสวิจาระ แม้เป็น
อวิตักกวิจารมัตตะ แม้เป็นอวิตักกาวิจาระก็มี สัจจะ 2 เป็นปีติสหคตะก็มี
เป็นสุขสหคตะก็มี เป็นอุเปกขาสหคตะก็มี นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
ปีติสหคตะ แม้เป็นสุขสหคตะ แม้เป็นอุเปกขาสหคตะ ทุกขสัจ เป็นปีติสหคตะ
ก็มี เป็นสุขสหคตะก็มี เป็นอุเปกขาสหคตะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
ปีติสหคตะ แม้เป็นสุขสหคตะ แม้เป็นอุเปกขาสหคตะก็มี สัจจะ 2 เป็น
เนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพะ สมุทยสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพะก็มี เป็น
ภาวนาปหาตัพพะก็มี ทุกขสัจ เป็นทัสสหปหาตัพพะก็มี เป็นภาวนาปหาตัพพะ
ก็มี เป็นเนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพะก็มี สัจจะ 2 เป็นเนวทัสสนนภานา-
ปหาตัพพเหตุกะ สมุทัยสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพเหตุกะก็มี เป็นภาวนาปหา-
ตัพพเหตุกะก็มี ทุกขสัจ เป็นทัสสนปหาตัพพเหตุกะก็มี เป็นภาวนาปหาตัพพ-
เหตุกะก็มี เป็นเนวทัสสนนภาวนาปหาตัพพเหตุกะก็มี สมุทัยสัจ เป็นอาจยคามี
มัคคสัจ เป็นอปจยคามี นิโรธสัจ เป็นเนวาจยคามีนาปจยคามี ทุกขสัจ
เป็นอาจยคามีก็มี เป็นเนวาจยคามินาปจยคามีก็มี มัคคสัจ เป็นเสกขะ สัจจะ
3 เป็นเนวเสกขหาเสกขะ สมุทยสัจ เป็นปริตตะ สัจจะ 2 เป็นอัปปมาณะ

ทุกขสัจ เป็นปริตตะก็มี เป็นมหัคคตะก็มี นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ
มัคคสัจ เป็นอัปปมาณารัมมณะ สมุทยสัจ เป็นปริตตารัมมณะก็มี เป็น
มหัคคตารัมมณะก็มี ไม่เป็นอัปปมาณารัมมณะ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
ปริตตารัมมณะ แม้เป็นมหัคคตารัมมณะก็มี ทุกขสัจ เป็นปริตตารัมมณะก็มี
เป็นมหัคคตารัมมณะก็มี เป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็น
ปริตตารัมมณะ แม้เป็นมหัคคตารัมมณะ แม้เป็นอัปปมาณารัมมณะก็มี
สมุทยสัจ เป็นหีนะ สัจจะ 2 เป็นปณีตะ ทุกขสัจ เป็นหีหะก็มี เป็นมัชฌิมะ
ก็มี นิโรธสัจ เป็นอนิยตะ มัคคสัจ เป็นสัมมัตตนิยตะ สัจจะ 2 เป็น
มิจฉัตตนิยตะก็มี เป็นอนิยตะก็มี นิโรธสัจเป็นอนารัมมณะ สมุทยสัจ กล่าว
ไม่ได้ว่า แม้เป็นมัคคารัมมณะ แม้เป็นมัคคเหตุกะ แม้เป็นมัคคาธิปติ มัคคสัจ
ไม่เป็นมัคั คารัมทณะ. เป็นมัค.คเหตุกะ.ก็มี เป็นมัคคาธิปิ ก็มี กล่าวไม่ได้ว่า
แม้เป็นมัคคเหตุกะ แม้เป็นมัคคาธิปติก็มี ทุกขสัจ เป็นมัคคารัมมณะก็มี
ไม่เป็นมัคคเหตุกะ เป็นมัคคาธิปติก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นมัคคารัมมณะ
แม้เป็นมัคคาธิปติก็มี สัจจะ 2 เป็นอุปปันนะก็มี เป็นอนุปันนะก็มี กล่าว
ไม่ได้ว่า เป็นอุปปาที นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอุปปันนะ แม้เป็น
อนุปปันนะ แม้เป็นอุปปาที ทุกขสัจ เป็นอุปปันนะก็มี เป็นอนุปปันนะก็มี
เป็นอุปปาทีก็มี สัจจะ 3 เป็นอดีตก็มี เป็นอนาคตก็มี เป็นปัจจุบันก็มี
นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอดีต แม้เป็นอนาคต แม้เป็นปัจจุบัน
นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ มัคคสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอตีตารัมมณะ
แม้เป็นอนาคตารัมมณะ แม้เป็นปัจจุปปันนารัมมณะ สัจจะ 2 เป็นอตีตารัมมณะ
ก็มี เป็นอนาคตารัมมณะก็มี เป็นปัจจุปปันนารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า

แม้เป็นอตีตารัมมณะ แม้เป็นอนาคตารัมมณะ แม้เป็นปัจจุปปันนารัมมณะก็มี
นิโรธสัจ เป็นพหิทธา สัจจะ 3 เป็นอัชฌัตตะก็มี เป็นพหิทธาก็มี เป็น
อัชฌัตตพหิทธาก็มี นิโรธสัจ เป็นอนารัมมณะ มัคคสัจ เป็นพหิทธารัมมณะ
สมุทยสัจ เป็นอัชฌัตตารัมมณะก็มี เป็นพหิทธารัมมณะก็มี เป็นอัชฌัตต-
พหิทธารัมมณะก็มี ทุกขสัจ เป็นอัชฌัตตารัมมณะก็มี เป็นพหิทธารัมมณะ
ก็มี เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นอัชฌัตตารัมมณะ
แม้เป็นพหิทธารัมมณะ แม้เป็นอัชฌัตตพหิทธารัมมณะก็มี สัจจะ 3 เป็น
อนิทัสสนอปปฏิฆะ ทุกขสัจ เป็นอนิทัสสนสัปปฏิฆะก็มี เป็นอนิทัสสนสป-
ฏิฆะก็มี เป็นอนิทัสสนอัปปฏิฆะก็มี.

ทุกมาติกาวิสัชนา


1. เหตุโคจฉกวิสัชนา


[225] สมุทยสัจ เป็นเหตุ นิโรธสัจ เป็นอเหตุ สัจจะ 2 เป็น
เหตุก็มี เป็นนเหตุก็มี สัจจะ 2 เป็นสเหตุกะ นิโรธสัจ เป็นอเหตุกะ
ทุกขสัจ เป็นสเหตุกะก็มี เป็นอเหตุกะก็มี สัจจะ 2 เป็นเหตุสัมปยุต นิโรธสัจ
เป็นเหตุวิปปยุต ทุกขสัจ เป็นเหตุสัมปยุตก็มี เป็นเหตุวิปปยุตก็มี สมุทยสัจ
เป็นเหตุสเหตุกะ นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นเหตุสเหตุกะ แม้เป็น
สเหตุกนเหตุ มัคคสัจ เป็นเหตุสเหตุกะก็มี เป็นสเหตุกนเหตุก็มี ทุกขสัจ
เป็นเหตุสเหตุกะก็มี เป็นสเหตุกนเหตุก็มี กล่าวไม่ได้ว่า แม้เป็นเหตุสเหตุกะ
แม้เป็นสเหตุกนเหตุ สมุทยสัจ เป็นเหตุเหตุสัมปยุต นิโรธสัจ กล่าวไม่ได้ว่า
แม้เป็นเหตุเหตุสัมปยุต แม้เป็นเหตุสัมปยุตตนเหตุ มัคคสัจ เป็นเหตุเหตุ-